น้ำมันละหุ่ง
คนส่วนใหญ่หันไปใช้สูตรอาหารธรรมชาติไม่ว่าจะเป็น zits หรือหญ้าเพราะพวกเขามักจะมีสารอาหารที่สำคัญมากมายสำหรับร่างกายซึ่งให้ประโยชน์มากมาย ถ้ามันไม่ทำงานก็จะไม่เจ็บ มันถูกใช้โดยบุคคลและมั่นใจ เป็นน้ำมันละหุ่งที่มีการใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณในหลาย ๆ ด้านโดยเฉพาะการรักษาเพราะประกอบด้วยกรดอะมิโนหลายชนิดที่มีความสำคัญต่อร่างกายดังนี้:
- กรดเรซิโนลิกซึ่งอยู่ระหว่าง 85% ถึง 95%
- กรดไลโนเลอิก: ระหว่าง 1% ถึง 5%
- กรดโอเลอิก: ระหว่าง 2% ถึง 6%
- กรด Linolenic: 0.5% ถึง 1%
- กรดสเตียริก: ระหว่าง 0.5% ถึง 1%
- Palmitic acid: ยังอยู่ระหว่าง 0.5% ถึง 1%
- Dehydroxy Stearic Acid: 0.3% ถึง 0.5%
- กรดอื่น ๆ อยู่ระหว่าง 0.2% ถึง 0.5%
ประโยชน์ของน้ำมันละหุ่ง
หนึ่งในการใช้งานที่สำคัญและสำคัญที่สุดคือหน้าท้องซึ่งถือเป็นยาระบายธรรมชาติที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งเนื่องจากมีความสามารถในการรักษาปัญหาและความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารและท้องผูกและการอักเสบที่เกี่ยวข้องของลำไส้และริดสีดวงทวาร อำนวยความสะดวกในการเคลื่อนไหวของลำไส้นอกเหนือจากลำไส้ใหญ่กินน้ำมันละหุ่งเพียงหนึ่งช้อนชาทุกวันด้วยน้ำผลไม้ธรรมชาติเช่นส้มหรือผลเบอร์รี่และอื่น ๆ เพราะรสชาติยาวเกินไปและไม่มีใครทนต่อการกินเพียงอย่างเดียว เพื่อหลีกเลี่ยงการรับประทานเกินสามวันนอกเหนือจากความเป็นไปได้ของการใช้ร่วมกับยาอื่น
นอกจากประโยชน์ในการรักษาปัญหาระบบทางเดินอาหารที่เกี่ยวข้องกับช่องท้องแล้วยังมีประโยชน์ในการรักษาอื่น ๆ อีกมากมายที่สำคัญที่สุดซึ่งมีดังต่อไปนี้:
- น้ำมันละหุ่งสำหรับขนตา: กระตุ้นการเจริญเติบโตของรูขุมขนนอกเหนือจากการเติบโตของคิ้วและการทำให้แรงขึ้น แต่ไม่แนะนำให้ใช้ขนตาเพื่อไม่ให้ทำร้ายดวงตาและแทนที่ด้วยน้ำมันอัลมอนด์หวาน
- น้ำมันละหุ่งสำหรับให้นมบุตร: น้ำมันละหุ่งช่วยในการผลิตน้ำนมเพราะอุดมไปด้วยกรดอะมิโนหลายชนิด แต่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานในปริมาณมากเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อทารกดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ นอกจากนี้คุณสามารถใส่น้ำมันละหุ่งในหรือรอบ ๆ หัวนมเพราะมันช่วยกระตุ้นต่อมน้ำนม
- น้ำมันละหุ่งสำหรับริดสีดวงทวาร: ริดสีดวงทวารสามารถรักษาได้เฉพาะทุกคืนก่อนนอน
- น้ำมันละหุ่งสำหรับการจัดส่ง: น้ำมันละหุ่งช่วยในการคลอดเช่นกันและอำนวยความสะดวกโดยการเพิ่มอัตราการหดตัวของมดลูก แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เพราะอาจทำให้เกิดปัญหามากมาย