เชื้อราปากเกิดจากจุดสีขาวบนลิ้นและภายในแก้มและอาจถึงต่อมทอนซิลและหลอดอาหารทำให้เกิดความเจ็บปวดและความยากลำบากในการกลืนและมีอาการคันและบางครั้งทำให้อุณหภูมิของร่างกาย
เชื้อราในช่องปากมีสาเหตุมาจากความไม่สมดุลระหว่างแบคทีเรียที่มีประโยชน์และเชื้อราที่พบตามธรรมชาติในปาก (Candida bicans) เนื่องจากปัจจัยที่ทำให้แบคทีเรียที่มีประโยชน์ลดลงและเชื้อราจะถูกครอบงำโดยพวกเขา ปัจจัยเหล่านี้คือ: การใช้ยาคุมกำเนิด, การใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไป – โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากครอบครัวนอกเหนือจากการใช้ corticosteroids, เพื่อไม่ให้ฟันสะอาดโดยเฉพาะหลังจากรับประทานของหวาน, ผู้ป่วยโรคเบาหวานอาจประสบกับเชื้อราในช่องปาก ขาดภูมิคุ้มกันต่อร่างกายไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามการขาดวิตามินบี 12 และอื่น ๆ แม่พยาบาล
ก่อนที่เราจะทำการรักษาเราต้องรู้วิธี การป้องกัน ของเชื้อรา:
ครั้งแรก: การใช้ยาปฏิชีวนะต้านจุลชีพในลักษณะที่เหมาะสมและเพื่อวัตถุประสงค์ที่พวกเขาจะใช้
ที่สอง: ทำความสะอาดฟันของคุณให้ดีและดูแลพวกเขา
ที่สาม: อย่ากินขนมมากเกินไป
ประการที่สี่: การหลีกเลี่ยงความวิตกกังวลและความเครียดอาจทำให้ขาดภูมิคุ้มกัน
ห้า: อยู่ห่างจากการสูบบุหรี่
หก: เด็กสามารถให้น้ำหลังจากดื่มนม วิธีนี้จะช่วยกำจัดน้ำนมที่เหลือในปากและลดโอกาสของเชื้อราในช่องปาก
การรักษา :
ครั้งแรก: ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการรักษาคือการใช้ยาต้านเชื้อราและมีอยู่ในรูปแบบของเจลในช่องปากและในรูปแบบของหยดในช่องปากของเด็กและหากเชื้อราในช่องปาก, การใช้แท็บเล็ตและแคปซูลเช่น เป็น🙁 nystatin ในรูปแบบของหยดในช่องปาก, Clotrimazole หรือ Micanzol ในรูปแบบของเจลช่องปาก, fluconazole หรือ atraconzole ในรูปแบบของแคปซูล ในกรณีขั้นสูงที่เชื้อราเหล่านี้ไปถึงหลอดอาหารสามารถใช้ amphotericin ได้
ที่สอง: ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในช่องปากเช่นไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์หรือคลอเฮกซิดีน
ที่สาม: โปรไบโอติกใช้ในการกระตุ้นร่างกายเพื่อกำจัดเชื้อราโดยสร้างการป้องกันจากการนอนหลับที่ผิดปกติของเชื้อราเหล่านี้ โปรไบโอติกที่พบในนมและมีขายในร้านขายยาเป็นแคปซูล ช่วยย่อยอาหาร
เชื้อราในช่องปากนั้นไม่ถือว่าเป็นโรคที่ร้ายแรงรักษาได้และหายขาด แต่ถือว่าเป็นโรคที่ร้ายแรงสำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องเนื่องจากยากต่อการควบคุม ปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันและปฏิบัติตามคำแนะนำการรักษาที่กำหนด
และอย่าลืมปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม