โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้หรือ“ ไข้ละอองฟาง” เกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ มันเป็นผลมาจากปฏิกิริยาต่อความรู้สึกจมูกที่เกิดจากการสูดดมฝุ่นละอองของบุคคลการผสมเกสรของพืชและอื่น ๆ ที่นำไปสู่การอักเสบของจมูกและเยื่อเมือกของมันซับอยู่ มันมักจะมาพร้อมกับจามตาพองและน้ำมูกไหล
ไข้ละอองฟางเป็นปฏิกิริยาต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์เนื่องจากการเข้าสู่ร่างกายของแอนติบอดีที่เรียกว่าแอนติบอดีต่อร่างกาย จากนั้นระบบภูมิคุ้มกันจะกระตุ้นการสร้างแอนติบอดีเพื่อโจมตีแอนติเจนทำให้เกิดอาการแพ้ต่าง ๆ ในบางช่วงอายุเด็กส่วนใหญ่มีอาการนี้และอาการอาจเกิดขึ้นในวัยแรกรุ่น
สาเหตุของไข้ละอองฟาง:
- โรคหืด
- โรคไซนัสอักเสบ
- มีข้อบกพร่องในระบบภูมิคุ้มกันในมนุษย์
- ยีนและพันธุกรรมอาจเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้
- ที่สูบบุหรี่
- ฝุ่นละอองแหล่งที่มาของสุคนธบำบัดการผสมเกสรของพืชไรฝุ่นและอื่น ๆ นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ระคายเคืองในร่างกาย
การรักษาไข้ละอองฟาง:
การรักษาไข้ละอองฟางควรอยู่ให้ห่างจากสารก่อภูมิแพ้และการรักษาด้วยยาจะแตกต่างกันไปตามความรุนแรงของอาการแพ้ ได้แก่ :
- ยาแก้แพ้เช่น ficofenadine, loratadine, ceterecine, dyslortadine, difenhydramine โดยสังเกตว่ายาเหล่านี้บางชนิดอาจมีอาการง่วงนอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างวัน
- ยาลดความดันโลหิตเช่น naphazoline, oximethazoline, pseudoephedrine, phenylaferrin, ไม่ใช้เกินห้าวันและไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีความดันสูง
- Corticosteroids เช่น budesonide, hydrocortisone, fluticazone, beclomethasone, prednisone อยู่ในจมูกโดยตรงและในกรณีที่รุนแรงมากขึ้นผ่านการฉีด
- Adrenalin: มีการกำหนดในกรณีที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรง
- การฉีดอิมมูโนโกลบูลินเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายกลับมาสู่ปัจจัยที่เพิ่มความไวตามการขาดการตอบสนองของร่างกายต่อยาเสพติด
ในกรณีที่รุนแรงการติดเชื้อไซนัสระคายเคืองภาวะแทรกซ้อนในระบบภูมิคุ้มกันและภาวะแทรกซ้อนของโรคหอบหืดอาจเพิ่มความรุนแรงของโรคหอบหืด
ไม่มีมาตรการป้องกันเพื่อป้องกันไข้ละอองฟางดังนั้นจึงขอแนะนำให้บุคคลระมัดระวังในการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้เช่นขนสัตว์และทรายของสัตว์ซึ่งจะช่วยชะลอการเกิดอาการแพ้ใด ๆ