ต่อมพาราไทรอยด์
คางทูมหรือคางทูมเป็นการอักเสบที่รุนแรงของต่อมน้ำลายโดยเฉพาะต่อมที่อยู่ด้านหลังแก้มและใต้หูซึ่งเกิดจากไวรัส Baramixo paramyxovirus และถูกส่งผ่านการสัมผัสโดยตรงกับผู้ติดเชื้อและผ่านน้ำลายหายใจไอและจามและถือว่าเป็นรูปแบบของโรคคอตีบโรคทั่วไปที่มีผลต่อเด็กซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงในวัยเด็กเท่านั้นโดยการฉีดวัคซีนป้องกัน ซึ่งเริ่มแพร่กระจายในปี 1967
การฉีดวัคซีนของต่อมหู
การฉีดวัคซีนเป็นวัคซีนที่ประกอบด้วยไวรัสที่มีชีวิตอ่อนแอและไร้ประสิทธิภาพซึ่งทำให้เด็กมีความสามารถในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของเขาในการรับรู้และควบคุมไวรัสผ่านการผลิตแอนติบอดีต่อไวรัสตลอดชีวิตและให้วัคซีนในวัคซีนสามชนิดด้วยโรคหัดและ วัคซีนหัดเยอรมันรู้จักกันในนามวัคซีน MMR ในรูปแบบของหลอดฉีดยาใต้ผิวหนังเข็มแรกจะได้รับระหว่างอายุ 12-15 เดือนไม่นับปริมาณ 12 เดือนที่ผ่านมาและเข็มที่สองจะได้รับระหว่างสามและห้าปีและมีไข้หนึ่ง ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดของการฉีดวัคซีน
ข้อห้ามในการฉีดวัคซีน
การฉีดวัคซีนนั้นอนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะกับเด็กผู้ใหญ่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำติดตัวไปและห้ามไม่ให้เด็กที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ, คอร์ติโซนบำบัดหรือเคมีบำบัด เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับโรคอื่น ๆ
อาการของโรคคอตีบ
ระยะฟักตัวของไวรัสมีความยาวโดยมีอาการทางคลินิกเกิดขึ้นประมาณสามสัปดาห์หลังจากวันที่ติดเชื้อ อาการดังต่อไปนี้:
- อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ปวดกระดูกกรามปวดเมื่อกลืนพูดคุยและดื่มน้ำผลไม้ที่เป็นกรด
- การบวมของต่อมหูด้านหนึ่งของใบหน้าหรือด้านข้าง
- สูญเสียความกระหายและปวดหัว
- ความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อและความอ่อนแอและความอ่อนแอทั่วไป
ภาวะแทรกซ้อนของโรคคอตีบ
- ไข้สปองจิฟอร์ม และเนื้อเยื่ออักเสบที่ครอบคลุมสมองและไขสันหลัง
- อัณฑะอักเสบ; การอักเสบเกิดขึ้นในรูปแบบของอาการปวดและบวมของอัณฑะและอุณหภูมิสูง
- เป็นฝี
- การอักเสบของเต้านมหรือรังไข่
- การอักเสบของตับอ่อน
รักษาโรคคอตีบ
คางทูมเป็นโรคไวรัสที่ไม่สามารถรักษาได้และสามารถรักษาให้หายขาดได้โดยอัตโนมัติหลังจากผ่านไป 10 สัปดาห์ถึง XNUMX วันโดยทำตามวิธีการบางอย่างเพื่อบรรเทาอาการและป้องกันการติดเชื้อเช่น:
- ลดความดันโลหิต, ลดความดันโลหิต, ยาแก้ปวด
- ความสะดวกสบายและความมุ่งมั่นที่บ้าน
- แยกผู้ป่วยโดยหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อสู่สมาชิกในครอบครัว
- ใช้ลูกประคบอุ่น ๆ เพื่อลดอาการบวม
- โภชนาการที่ดีควรกินต้ม
- ดื่มน้ำมาก ๆ